ในปัจจุบันการออกแบบอาคารให้มีความทันสมัย โดดเด่น สวยงาม มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นสิ่งที่ Owner หรือเจ้าของอาคาร ให้ความสำคัญในลำดับต้นๆ การออกแบบให้ถูกใจเจ้าของอาคาร และสามารถก่อสร้างได้จริงตามหลักวิศวกรรม จึงเป็นโจทย์ที่ท้าทายผู้ออกแบบเป็นอย่างมาก
ซึ่งนอกเหนือจากการออกแบบให้สวยงามแล้ว การเลือกใช้วัสดุในการก่อสร้างและตกแต่งอาคาร ก็เป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญที่มีผลต่อ Mood & Tone ของอาคารเช่นกัน ในบทความนี้เราจะมาแนะนำอีกหนึ่งวัสดุที่นิยมใช้ในงาน Façade ประเภทคอนกรีต ที่สามารถฉีกข้อจำกัดในการออกแบบชิ้นส่วนคอนกรีตทั่วไป ให้สามารถมีรูปทรงต่างๆ มีเส้นสายลวดลายที่สวยงาม มีความบางและน้ำหนักเบา ได้ตามที่ผู้ออกแบบต้องการ วัสดุที่กล่าวมานั้นคือ “ชิ้นส่วนคอนกรีตเสริมใยแก้ว” นั่นเอง
คอนกรีตเสริมใยแก้วคืออะไร ?
“คอนกรีตเสริมใยแก้ว” หรือ GRC ซึ่งย่อมาจาก Glassfiber Reinforced Concrete เป็นชิ้นส่วนคอนกรีตประเภทหนึ่ง ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานเฉพาะส่วน เช่น งานเปลือกอาคาร บัว แผ่นผนังกันเสียง และงานประเภทอื่น ๆ ที่ต้องการผิวสัมผัส หรือ Texture ในรูปแบบของคอนกรีต สำหรับชิ้นงานที่นิยมใช้ GRC งานมากที่สุดจะเป็นประเภทงาน “เปลือกอาคาร” หรือ งานฟาซาด (Façade) เนื่องจากมีคุณสมบัติพิเศษเฉพาะทางที่สามารถตอบโจทย์ผู้ออกแบบได้ดี
ข้อดีของชิ้นส่วนคอนกรีตเสริมใยแก้ว
หากพูดถึงชิ้นส่วนคอนกรีตเสริมใยแก้ว (GRC) หลายท่านอาจจะไม่คุ้นชื่อเหมือนกับ ชิ้นส่วนคอนกรีตสำเร็จรูป (Precast Concrete) และถ้ายิ่งบอกว่าเป็นชิ้นส่วนคอนกรีตที่ไม่มีเหล็กเสริมภายในด้วยแล้ว อาจทำให้เกิดความกังวลถึงความแข็งแรง รวมไปถึงชิ้นงานที่มีรูปลักษณ์ที่มีมิติ เมื่อนำไปติดตั้งแล้วจะสามารถมีอายุการใช้งานได้ยาวนานเพียงใด ทุกข้อสงสัยหาคำตอบได้จากเนื้อหาต่อจากนี้
- น้ำหนักเบา ความคงทนสูง
GRC เป็นชิ้นงานคอนกรีตที่มีน้ำหนักเบากว่ามาก เมื่อเทียบกับคอนกรีตเสริมเหล็ก เนื่องจาก GRC ไม่มีเหล็กเสริมภายในชิ้นงาน แต่ในเรื่องความแข็งแรง ไม่ได้ด้อยกว่าคอนกรีตเสริมเหล็กเลยแม้แต่น้อย เพราะ GRC ยังคงคุณสมบัติเหมือนเช่นคอนกรีตทั่วไป แต่เปลี่ยนจากการใช้เหล็กเสริมภายในเป็นการใช้ใยแก้วชนิดพิเศษผสมในกระบวนการผลิตแทน นั่นจึงทำให้ GRC มีชิ้นงานที่บางและมีน้ำหนักเบา แต่ยังคงความแข็งแรงทนทาน
- สามารถขึ้นรูปเป็นรูปทรงที่ซับซ้อนได้มากกว่าคอนกรีตเสริมเหล็กทั่วไป
ลักษณะการใช้งานคอนกรีตเสริมใยแก้ว มักนิยมนำมาใช้ในงานรูปแบบเปลือกอาคาร (Façade) ซึ่งมุ่งเน้นไปที่ความสวยงามเป็นหลัก เนื่องจากเป็นชิ้นงานคอนกรีตที่สามารถออกแบบและขึ้นรูปทรงชิ้นงานที่มีความซับซ้อน มีส่วนโค้งเว้า และเส้นสายลวดลายที่วิจิตรงดงามได้ ดังนั้นอาคารที่มีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น มีเปลือกอาคารคอนกรีตที่มีส่วนโค้งเว้า เส้นสายลวดลายที่สวยงามแปลกตา โดยส่วนมากล้วนเป็นชิ้นงาน GRC ทั้งสิ้น
- สามารถทาสีทับ หรือปิดผิวด้วยวัสดุต่างๆ ได้
งานเปลือกอาคาร (Façade) ในปัจจุบันมีความหลากหลายทั้งในด้านของรูปทรง ไปจนถึงสีสันต่าง ๆ ที่แตกต่างกันออกไป หากเป็นการออกแบบที่จะต้องมีการทาสีเคลือบ คอนกรีตเสริมใยแก้วก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เนื่องจากสามารถทาสีเคลือบได้เหมือนคอนกรีตทั่ว ๆ ไป และยังมีจุดเด่นในเรื่องของการกำหนด ผิวหน้า หรือ Texture ได้อย่างหลากหลายอีกด้วย รวมถึงสามารถปิดผิวด้วยวัสดุอื่น เช่น กระจก กระเบื้อง ได้ จึงรองรับต่อจินตนาการด้านการออกแบบได้ดี
- ชิ้นงาน GRC ติดตั้งง่าย และก่อสร้างได้รวดเร็ว
การผลิตชิ้นงาน GRC จะเริ่มต้นหลังจากที่ได้รับแบบก่อสร้างที่ระบุการใช้งาน GRC ในภาพรวมทั้งหมดจากผู้ออกแบบ จากนั้นจะทำการแบ่งผลิตชิ้นงานเป็นส่วนๆ เหมือนจิ๊กซอ ก่อนจะส่งไปติดตั้งและประกอบชิ้นส่วนต่างๆ เข้าด้วยกันที่หน้างาน ด้วยลักษณะชิ้นงาน GRC ที่มีความบางและน้ำหนักเบา จึงช่วยให้สามารถติดตั้งได้ง่าย และก่อสร้างได้รวดเร็ว ช่วยให้ประหยัดได้ทั้งแรงงานและเวลาอันมีค่าอีกด้วย
ด้วยลักษณะการออกแบบอาคารในปัจจุบันที่นอกจากจะเน้นเรื่องการจัดการพื้นที่ใช้สอยให้เกิดประโยชน์สูงสุดแล้ว รูปลักษณ์ภายนอกของอาคารก็ถือว่าเป็นส่วนประกอบหนึ่งที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากอาคารที่มีความสวยงาม โดดเด่น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ย่อมเป็นที่จดจำของผู้พบเห็น และถูกกล่าวถึงให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างได้
